กองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ (กบข.) ตระหนักและให้ความสำคัญกับการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของผู้เช่าและผู้ใช้บริการของ อาคารบางกอกซิตี้ ทาวเวอร์ และอาคารจีพีเอฟ วิทยุ โดย กบข. มีความรับผิดชอบในการรักษาความปลอดภัยแก่ข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลที่อยู่ภายใต้ความดูแลของ กบข. และมุ่งมั่นที่จะจัดการข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวด้วยวิธีการที่มั่นคงปลอดภัย จึงจัดทำประกาศนี้ขึ้นเพื่อให้เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลทราบวัตถุประสงค์ในการเก็บรวบรวม ใช้ และเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล ตลอดจนระยะเวลาการเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคล รวมทั้งสิทธิของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลในฐานะเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลภายใต้พระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 ทั้งนี้ กบข. ในฐานะผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลจะดำเนินการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลตามวัตถุประสงค์ที่กำหนดไว้ในประกาศนี้
“อาคาร” หมายความว่า อาคารบางกอกซิตี้ ทาวเวอร์ และอาคารจีพีเอฟ วิทยุ
“ข้อมูลส่วนบุคคล” หมายความว่า ข้อมูลเกี่ยวกับบุคคลซึ่งทำให้สามารถระบุตัวบุคคลนั้นได้ ไม่ว่าทางตรงหรือทางอ้อม แต่ไม่รวมถึงข้อมูลของผู้ถึงแก่กรรมโดยเฉพาะ
“ข้อมูลส่วนบุคคลอ่อนไหว” หมายความว่า ข้อมูลส่วนบุคคลตามที่ถูกบัญญัติไว้ในมาตรา 26 แห่งพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 ได้แก่ ข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับเชื้อชาติ เผ่าพันธุ์ ความคิดเห็นทางการเมือง ความเชื่อในลัทธิ ศาสนาหรือปรัชญา พฤติกรรมทางเพศ ประวัติอาชญากรรม ข้อมูลสุขภาพ ความพิการ ข้อมูลสหภาพแรงงาน ข้อมูลพันธุกรรม ข้อมูลชีวภาพ หรือข้อมูลอื่นใดซึ่งกระทบต่อเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลในทำนองเดียวกันตามที่คณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลประกาศกำหนด
“ผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล” หมายความว่า บุคคลหรือนิติบุคคลซึ่งมีอำนาจหน้าที่ตัดสินใจเกี่ยวกับการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล
“ผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล” หมายความว่า หมายความว่า บุคคลหรือนิติบุคคลซึ่งดำเนินการเกี่ยวกับการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลตามคำสั่งหรือในนามของ กบข.
“เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล” หมายความว่า ผู้เช่าหรือผู้ใช้บริการของอาคาร
“ผู้เช่า” หมายความว่า บุคคลธรรมดาหรือนิติบุคคลที่ทำสัญญาเช่าหรือมีนิติสัมพันธ์อื่นใดกับ กบข. ที่เกี่ยวเนื่องกับการเช่าพื้นที่ของอาคาร ทั้งในฐานะผู้เช่า พนักงาน ลูกจ้าง ตัวแทน หรือบุคคลใด ๆ ที่มีอำนาจในการสร้างความสัมพันธ์ทางธุรกิจหรือดำเนินธุรกรรม และรวมถึงผู้รับจ้างของผู้เช่า
“ผู้ใช้บริการ” หมายความว่า บุคคลธรรมดาที่มาใช้บริการในพื้นที่อาคาร รวมถึงบุคคลธรรมดาที่มาติดต่อ กบข. ผู้เช่าหรือผู้ใช้บริการในอาคาร
“การประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล” หมายความว่า การดำเนินการหรือชุดการดำเนินการในการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลด้วยระบบอัตโนมัติหรือไม่ก็ได้ เช่น การเก็บรวบรวม การบันทึก การจัดระเบียบ การจัดโครงสร้าง การจัดเก็บ การดัดแปลง การปรับเปลี่ยน การกู้คืน การใช้ การเปิดเผยด้วย การส่ง การแพร่กระจาย หรือทำให้มีอยู่ การจัดวางให้ถูกตำแหน่ง การรวม การจำกัด การลบ และการทำลาย รวมถึงการอื่นใดที่ถูกควบคุมโดยกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล
วัตถุประสงค์ | ฐานกฎหมาย |
---|---|
(1) เพื่อใช้ในการติดต่อ ประสานงาน การให้บริการ และอำนวยความสะดวกแก่ผู้เช่า รวมถึงการติดต่อในกรณีเกิดเหตุฉุกเฉินของผู้เช่า |
(1) ฐานการปฏิบัติตามสัญญา (Contract) (2) ฐานประโยชน์อันชอบธรรม (Legitimate Interest) |
(2) เพื่อการตลาด การสื่อสาร การเผยแพร่ และประชาสัมพันธ์ ข้อมูลข่าวสาร ข้อเสนอเกี่ยวกับการให้บริการต่าง ๆ ทั้งของอาคารและพันธมิตรทางธุรกิจ หรือเชิญเข้าร่วมกิจกรรมหรือบริการอื่น ๆ ให้ผู้เช่าทราบ | (1) ฐานประโยชน์อันชอบธรรม (Legitimate Interest) (2) ฐานความยินยอม (Consent) เฉพาะในกรณีที่ต้องได้รับความยินยอมในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลจากเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล |
(3) เพื่อทำสัญญาและจัดการความสัมพันธ์ตามสัญญาของ กบข. กับเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล รวมถึงการดำเนินการในด้านต่าง ๆ เกี่ยวกับการเช่าหรือใช้พื้นที่ เช่น การตกแต่ง การปรับปรุงพื้นที่เช่าและพื้นที่ส่วนกลาง การนำของหรือทรัพย์สินเข้า-ออก การยื่นขอคืนเงินค้ำประกัน การใช้พื้นที่จอดรถของอาคาร การทำบัตรเข้า-ออกอาคาร การชำระค่าปรับกรณีบัตรหาย บัตรชำรุด การใช้พื้นที่วางระบบสัญญาณต่าง ๆ | ฐานการปฏิบัติตามสัญญา (Contract) |
(4) เพื่อใช้ในการพิสูจน์และการยืนยันตัวตนเพื่อการลงทะเบียน การตรวจสอบ รวมถึงการยืนยันเพื่อการตรวจสอบการเข้า-ออกอาคารของผู้เช่า และผู้รับจ้างหรือผู้ให้บริการแก่ผู้เช่า |
(1) ฐานการปฏิบัติตามสัญญา (Contract) (2) ฐานความยินยอม (consent) เฉพาะในกรณีที่ต้องได้รับความยินยอมในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลจากเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล |
(5) เพื่อประมวลผลธุรกรรมทางการเงินหรือการชำระเงิน และบริการที่เกี่ยวข้องกับการชำระเงิน การดำเนินการเกี่ยวกับเอกสารการรับเงิน การออกใบแจ้งหนี้ ใบกำกับภาษี ใบเสร็จรับเงิน การตรวจสอบธุรกรรม การยืนยัน การยกเลิก การคืนหลักทรัพย์ค้ำประกัน การเรียกเก็บค่าใช้จ่ายและค่าบริการ ต่าง ๆ และการจัดส่งเอกสารดังกล่าว |
ฐานการปฏิบัติตามสัญญา (Contract) |
(6) เพื่อตรวจสอบ เฝ้าระวัง และปกป้องความปลอดภัยจากการถูกโจรกรรม การทำร้าย การทำลายทรัพย์สิน หรืออาชญากรรมอื่น รวมถึงการใช้หรือเปิดเผยภาพที่บันทึกไว้เป็นหลักฐานเพื่อดำเนินคดี หรือหาตัวผู้กระทำความผิด หรือเพื่อให้ความช่วยเหลือในกระบวนการระงับข้อพิพาท หรือเปิดเผยตามอำนาจของเจ้าหน้าที่ของรัฐร้องขอ เช่น ภาพนิ่ง ภาพเคลื่อนไหว รวมถึงข้อมูลทรัพย์สิน (ยานพาหนะ) หรือข้อมูลส่วนบุคคลที่ปรากฏให้เห็นได้จากภาพเคลื่อนไหวที่บันทึกโดยกล้องโทรทัศน์วงจรปิด เมื่อมีการเข้ามาภายในพื้นที่ของ กบข. |
(1) ฐานประโยชน์อันชอบธรรม (Legitimate Interest) (2) ฐานการปฏิบัติตามกฎหมาย (Legal Obligation) |
(7) เพื่อปฏิบัติให้เป็นไปตามกฎระเบียบ กฎหมาย เช่น การปฏิบัติตามข้อกำหนดหรือกระบวนการทางกฎ ระเบียบ กฎหมาย หรือคำสั่งของหน่วยงานของรัฐที่มีอำนาจและหน้าที่ตามกฎหมาย คำสั่งศาล หน่วยงานกำกับดูแล หน่วยงานบังคับใช้กฎหมาย หรือเจ้าพนักงานที่มีหน้าที่และอำนาจตามกฎหมาย เป็นต้น | ฐานการปฏิบัติตามกฎหมาย (Legal Obligation) |
(8) เพื่อการปฏิบัติตามข้อบังคับของกฎหมายควบคุมอาคาร เช่น การอบรมดับเพลิง การฝึกซ้อมอพยพหนีไฟ | ฐานการปฏิบัติตามกฎหมาย (Legal Obligation) |
(9) เพื่อการเรียกร้องค่าสินไหมทดแทนจากการละเมิดหรือการจัดการป้องกันการสูญเสียทรัพย์สิน | ฐานประโยชน์อันชอบธรรม (Legitimate Interest) |
(10) เพื่อประโยชน์ในการสำรวจ การวิเคราะห์ การประเมิน การจัดทำสถิติที่เกี่ยวข้องกับการพัฒนาบริการ การนำเสนอบริการ การสื่อสารประชาสัมพันธ์ต่าง ๆ ที่เหมาะสม |
(1) ฐานประโยชน์อันชอบธรรม (Legitimate Interest) (2) ฐานความยินยอม (Consent) เฉพาะในกรณีที่ต้องได้รับความยินยอมในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลจากเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล |
(11) เพื่อการจัดการความสัมพันธ์ เพื่ออำนวยความสะดวกในการใช้บริการ เพื่อบริหารจัดการคำขอ ข้อสอบถาม ข้อเสนอแนะ หรือข้อร้องเรียนที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินงานหรือการให้บริการ รวมถึงการจัดการปัญหาที่เกิดขึ้นจากการดำเนินงาน | ฐานประโยชน์อันชอบธรรม (Legitimate Interest) |
(12) เพื่อการใช้งานระบบต่าง ๆ หรือบริการที่จำเป็นต้องมีการพิสูจน์และยืนยันตัวตน เช่น การลงทะเบียนสมัครใช้ระบบ | ฐานประโยชน์อันชอบธรรม (Legitimate Interest) |
(13) เพื่อกิจการภายในของ กบข. เช่น
|
(1) ฐานประโยชน์อันชอบธรรม (Legitimate Interest) (2) ฐานการปฏิบัติตามกฎหมาย (legal Obligation) |
(14) เพื่อการจัดเก็บข้อมูล Log ตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง การเฝ้าระวังเหตุการณ์ภัยคุกคามทางด้านความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์ การให้บริการและการแก้ไขปัญหาการใช้งานระบบโครงสร้างพื้นฐานสารสนเทศ |
(1) ฐานการปฏิบัติตามกฎหมาย (Legal Obligation) (2) ฐานประโยชน์อันชอบธรรม (Legitimate Interest) |
วัตถุประสงค์ | ฐานกฎหมาย |
---|---|
(1) ข้อมูลเพื่อใช้ในการยืนยันตัวตน เช่น ชื่อ-นามสกุล หมายเลขบัตรประจำตัวประชาชน เอกสารข้อมูลระบุตัวตน | ฐานประโยชน์อันชอบธรรม (Legitimate Interest) |
(2) ข้อมูลเพื่อใช้ในการติดต่อ ประสานงาน การให้บริการ และการแจ้งข้อมูลต่าง ๆ เช่น ชื่อ-นามสกุล เลขบัตรประจำตัวประชาชนหรือหนังสือเดินทาง หมายเลขโทรศัพท์ ไปรษณีย์อิเล็กทรอนิกส์ ที่อยู่ ทะเบียนรถ ภาพถ่ายผู้ใช้บริการและทรัพย์สิน (ยานพาหนะ) เวลาเข้า-ออกอาคาร | ฐานประโยชน์อันชอบธรรม (Legitimate Interest) |
(3) ข้อมูลจากกล้องโทรทัศน์วงจรปิด เช่น ภาพนิ่งภาพเคลื่อนไหว รวมถึงข้อมูลทรัพย์สิน (ยานพาหนะ) หรือข้อมูลส่วนบุคคลที่ปรากฏให้เห็นได้จากภาพเคลื่อนไหวที่บันทึกโดยกล้องโทรทัศน์วงจรปิด เมื่อมีการเข้ามาภายในพื้นที่ของ กบข. |
(1) ฐานประโยชน์อันชอบธรรม (Legitimate Interest) (2) ฐานการปฏิบัติตามกฎหมาย (legal Obligation) |
(4) เพื่อการจัดเก็บข้อมูล Log ตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง การเฝ้าระวังเหตุการณ์ภัยคุกคามทางด้านความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์ การให้บริการและการแก้ไขปัญหาการใช้งานระบบโครงสร้างพื้นฐานสารสนเทศ |
(1) ฐานการปฏิบัติตามกฎหมาย (Legal Obligation) (2) ฐานประโยชน์อันชอบธรรม (Legitimate Interest) |
ข้อมูลส่วนบุคคลที่ กบข. เก็บรวบรวมเพื่อวัตถุประสงค์ดังกล่าวข้างต้นเป็นข้อมูลที่จำเป็นสำหรับการปฏิบัติงานของ กบข. หรือการปฏิบัติตามกฎหมายต่าง ๆ ที่ใช้บังคับกับ กบข. ทั้งนี้ หากเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลไม่ให้ข้อมูลส่วนบุคคลที่จำเป็นดังกล่าว การปฏิบัติหน้าที่หรือให้บริการของกบข. อาจไม่บรรลุวัตถุประสงค์ตามความต้องการของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลได้ ในกรณีที่ กบข. ประสงค์จะประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลนอกเหนือจากวัตถุประสงค์ดังกล่าวข้างต้น กบข. จะแจ้งวัตถุประสงค์ให้เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลทราบ เว้นแต่ในกรณีที่มีกฎหมายบัญญัติไว้ ทั้งนี้ หาก กบข. จำเป็นต้องขอความยินยอมจากเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล กบข. จะขอความยินยอมจากเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลเป็นรายกรณี นอกจากนี้ในกรณีที่เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลได้ให้ข้อมูลของบุคคลอื่นแก่ กบข. เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลจะต้องรับผิดชอบในการแจ้งให้บุคคลเหล่านั้นทราบถึงประกาศนี้ หรือดำเนินการขอความยินยอม (หากจำเป็น)
กบข. เก็บรวบรวมและใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลเท่าที่จำเป็นภายใต้วัตถุประสงค์อันชอบด้วยกฎหมายตามรายการดังต่อไปนี้
ในกรณีที่จำเป็น กบข. จะทำการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลอ่อนไหวของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลโดยได้รับความยินยอมโดยชัดแจ้งจากเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลหรือมีข้อยกเว้นในการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลอ่อนไหวโดยไม่ได้รับความยินยอมโดยชัดแจ้งจากเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลตามมาตรา 26 แห่งพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 ซึ่ง กบข. จะใช้ความพยายามอย่างดีที่สุดในการจัดให้มีมาตรการรักษาความมั่นคงปลอดภัยที่เพียงพอเพื่อปกป้องคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลอ่อนไหวของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล ทั้งนี้ กบข. จะประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลอ่อนไหวดังกล่าวเพื่อวัตถุประสงค์ตามที่กฎหมายกำหนดไว้และตามวัตถุประสงค์ที่ กบข. แจ้งไว้
ในกรณีที่เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลไม่ประสงค์ให้ทำการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลอ่อนไหว แต่ข้อมูลส่วนบุคคลอ่อนไหวดังกล่าวปรากฏอยู่บนบัตรประจำตัวประชาชนหรือเอกสารอื่นใดที่เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลได้สมัครใจเปิดเผยไว้ต่อ กบข. หรือส่งมอบข้อมูลใดที่ปรากฏข้อมูลส่วนบุคคลอ่อนไหวให้แก่ กบข. ไม่ว่าจะเป็นการส่งมอบในลักษณะที่เป็นเอกสารหรือสื่ออื่นใด กบข. แนะนำให้เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลเป็นผู้ปกปิดข้อมูลส่วนบุคคลอ่อนไหวเหล่านี้ด้วยตัวเอง โดยวิธีการขีดฆ่าข้อมูลส่วนบุคคลอ่อนไหว อย่างไรก็ตาม หากเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลมิได้ปกปิดข้อมูลด้วยตัวเอง กบข. ถือว่าเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลได้อนุญาตโดยชัดแจ้งให้ กบข. ทำการปกปิดข้อมูลส่วนบุคคลอ่อนไหวให้แก่เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล และให้ถือว่าข้อมูลส่วนบุคคลอ่อนไหวที่เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลส่งมอบมาและ กบข. ได้จัดการปกปิดข้อมูลส่วนบุคคลอ่อนไหวให้แล้วนั้น เป็นเอกสารที่สมบูรณ์ใช้บังคับได้ตามกฎหมายทุกประการ และ กบข. สามารถนำไปทำการประมวลผลได้ภายใต้พระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 ทั้งนี้ หากเป็นกรณีที่ กบข. ไม่สามารถจัดการปกปิดข้อมูลส่วนบุคคลอ่อนไหวให้ได้เนื่องด้วยปัญหาเชิงเทคนิคหรือปัญหาอื่นใด กบข. จะทำการจัดเก็บข้อมูลส่วนบุคคลอ่อนไหวนั้นเพื่อเป็นส่วนหนึ่งของเอกสารยืนยันตัวตนของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลเท่านั้น
ในกรณีที่ กบข. ทราบว่า ข้อมูลส่วนบุคคลที่จำเป็นต้องได้รับความยินยอมในการเก็บรวบรวมเป็นของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลซึ่งเป็นผู้เยาว์ คนเสมือนไร้ความสามารถ หรือคนไร้ความสามารถ กบข. จะไม่ทำการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลนั้นจนกว่าจะได้รับความยินยอมจากผู้ใช้อำนาจปกครองที่มีอำนาจกระทำการแทนผู้เยาว์ หรือผู้พิทักษ์ หรือผู้อนุบาล ตามแต่กรณี ทั้งนี้ เป็นไปตามเงื่อนไขที่กฎหมายกำหนดดังต่อไปนี้
ในกรณีที่ กบข. ไม่ทราบมาก่อนว่าเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลเป็นผู้เยาว์ คนเสมือนไร้ความสามารถหรือคนไร้ความสามารถ และมาพบในภายหลังว่า กบข. ได้เก็บรวบรวมข้อมูลของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าว โดยยังมิได้รับความยินยอมจากผู้ใช้อำนาจปกครองที่มีอำนาจกระทำการแทนผู้เยาว์ หรือผู้พิทักษ์ หรือผู้อนุบาล ตามแต่กรณี กบข. จะดำเนินการลบทำลายข้อมูลส่วนบุคคลนั้นโดยเร็ว หาก กบข. ไม่มีเหตุอันชอบด้วยกฎหมายประการอื่นนอกเหนือจากความยินยอมในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าว
ในฐานะเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลย่อมมีสิทธิต่าง ๆ ที่เกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคลของตนเองตามพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 ดังต่อไปนี้
เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลมีสิทธิในการเข้าถึง รับสำเนาข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล รวมทั้งขอให้ กบข. เปิดเผยที่มาของข้อมูลส่วนบุคคลของตนที่ กบข. เก็บรวบรวมอยู่ เว้นแต่ในกรณีที่ กบข. มีสิทธิปฏิเสธคำขอของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลตามกฎหมายหรือคำสั่งศาล หรือในกรณีที่คำขอของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลจะมีผลกระทบที่อาจก่อให้เกิดความเสียหายต่อสิทธิและเสรีภาพของบุคคลอื่น
เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลมีสิทธิขอแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลของตนที่ไม่ถูกต้อง ไม่ครบถ้วนสมบูรณ์ ไม่เป็นปัจจุบัน หรือก่อให้เกิดความเข้าใจผิด เพื่อให้ข้อมูลส่วนบุคคลของตนมีความถูกต้อง ครบถ้วน สมบูรณ์ เป็นปัจจุบัน หรือไม่ก่อให้เกิดความเข้าใจผิด โดย กบข. จะยืนยันความถูกต้องตามข้อมูลส่วนบุคคลที่ได้รับจากเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล เพื่อให้แน่ใจว่าข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวนั้นถูกต้องก่อนทำการแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคล
เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลมีสิทธิที่จะร้องขอให้ กบข. ลบข้อมูลส่วนบุคคลที่เกี่ยวกับตนเองในกรณีที่เป็นไปตามเกณฑ์ดังต่อไปนี้
เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลมีสิทธิขอให้ระงับการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลในกรณีดังต่อไปนี้
เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลมีสิทธิขอคัดค้านการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของตนด้วยเหตุผลที่ชอบด้วยกฎหมายดังต่อไปนี้
เมื่อมีการคัดค้านแล้ว กบข. จะต้องพิสูจน์ความชอบธรรมของเหตุผลอันเป็นฐานของการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าว และระงับการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลจนกว่าจะดำเนินการแล้วเสร็จ
ในกรณีที่ กบข. อาศัยฐานความยินยอมในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลมีสิทธิในการเพิกถอนความยินยอมในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลที่เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลได้ให้ความยินยอมกับ กบข. ได้ตลอดระยะเวลาที่ข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลอยู่ในความครอบครองของ กบข. ทั้งนี้ การเพิกถอนความยินยอมไม่ส่งผลกระทบต่อการประมวลผลที่ให้ความยินยอมไปแล้ว
อย่างไรก็ตาม ในกรณีที่เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลเพิกถอนความยินยอม เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลอาจได้รับผลกระทบไม่สามารถรับบริการที่การประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลจำเป็นต้องอาศัยฐานความยินยอม
เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลมีสิทธิขอรับข้อมูลส่วนบุคคลที่เกี่ยวกับตนเองในรูปแบบที่สามารถอ่านหรือใช้งานโดยทั่วไปได้ด้วยเครื่องมือหรืออุปกรณ์ที่ทำงานได้โดยอัตโนมัติ และสามารถใช้หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลได้ด้วยวิธีการอัตโนมัติ รวมทั้งมีสิทธิดังต่อไปนี้
ข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวต้องเป็นข้อมูลส่วนบุคคลที่เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลได้ให้ความยินยอมในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล หรือเป็นข้อมูลส่วนบุคคลที่ได้รับยกเว้นไม่ต้องขอความยินยอมจากเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล หรือเป็นข้อมูลส่วนบุคคลอื่นที่คณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลประกาศกำหนดตามพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562
หากเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลมีความกังวลหรือมีข้อสงสัยเกี่ยวกับการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของตนโดย กบข. โปรดติดต่อ กบข. ตามที่กำหนดไว้ในประกาศนี้ ในกรณีที่มีการฝ่าฝืนกฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลมีสิทธิยื่นข้อร้องเรียนต่อสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลได้
กบข. จะใช้ความพยายามอย่างเต็มความสามารถเพื่ออำนวยความสะดวกและดำเนินการตามคำร้องขอของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลโดยไม่ชักช้า เว้นแต่จะปรากฏข้อเท็จจริงว่าการดำเนินการตามคำร้องขอนั้นก่อให้เกิดภาระแก่ กบข. เกินสมควร หรือเสี่ยงต่อการละเมิดการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของผู้อื่น หรือเป็นการขัดต่อกฎหมาย หรือกรณีที่เป็นการพ้นวิสัยในทางปฏิบัติตามคำร้องขอนั้น
ในกรณีที่ กบข. ส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลไปต่างประเทศ กบข. จะดำเนินการเพื่อให้แน่ใจว่า กบข. ได้ส่งหรือโอนไปยังประเทศปลายทาง องค์กรระหว่างประเทศ หรือผู้รับข้อมูลในต่างประเทศที่มีมาตรฐานในการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่เพียงพอ ในบางกรณี กบข. อาจขอความยินยอมจากเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลสำหรับการโอนข้อมูลส่วนบุคคลไปยังต่างประเทศ ทั้งนี้ ตามหลักเกณฑ์การให้ความคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่ส่งหรือโอนไปยังต่างประเทศที่คณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลประกาศกำหนด เว้นแต่กรณีดังต่อไปนี้
กบข. จะลบหรือทำลายหรือทำให้ข้อมูลส่วนบุคคลเป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวบุคคลที่เป็นเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลได้ เมื่อข้อมูลส่วนบุคคลนั้นไม่เกี่ยวข้องหรือเกินความจำเป็นตามวัตถุประสงค์ในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลนั้น หรืออาจเก็บต่อไปตามระยะเวลาที่จำเป็นเพื่อการปฏิบัติตามกฎหมายหรือตามอายุความทางกฎหมาย หรือเพื่อการก่อตั้งสิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย การปฏิบัติตามหรือใช้สิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย หรือการยกขึ้นต่อสู้สิทธิเรียกร้องตามกฎหมายหรือเก็บไว้เป็นระยะเวลาห้าปีนับแต่วันสิ้นสุดระยะเวลาบังคับคดี หรือเพื่อเหตุอื่นตามนโยบายและข้อกำหนดของ กบข. และจะต้องทำลายข้อมูลส่วนบุคคลให้แล้วเสร็จภายในระยะเวลาหนึ่งปีนับแต่วันพ้นกำหนดระยะเวลาการเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคล ทั้งนี้ กบข. อาจสงวนสิทธิในการพิจารณาจัดเก็บข้อมูลส่วนบุคคลต่อไปเท่าที่จำเป็นเพื่อประโยชน์ในการใช้อ้างอิง
กบข. จะดำเนินการเพื่อให้ข้อมูลส่วนบุคคลมีความถูกต้อง เป็นปัจจุบัน สมบูรณ์ ไม่ก่อให้เกิดความเข้าใจผิด และมีคุณภาพ รวมทั้งให้ความคุ้มครองและรักษาความมั่นคงปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคลตามนโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่ กบข. กำหนด เพื่อมิให้ข้อมูลส่วนบุคคลเกิดการรั่วไหลหรือการเข้าถึงโดยไม่ได้รับอนุญาตหรือถูกนำไปใช้โดยผู้ที่ไม่มีสิทธิหรือโดยมิชอบด้วยกฎหมาย
กบข. อาจเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลก็ต่อเมื่อได้รับคำร้องขอจากเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล โดยส่งคำร้องขอการใช้สิทธิผ่านช่องทางการติดต่อกับ กบข. หรือไปรษณีย์อิเล็กทรอนิกส์ ได้แก่ saraban@gpf.or.th
ในกรณีที่เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลมีการคัดค้านการจัดเก็บ ความถูกต้อง หรือการกระทำใด เช่น การแจ้งปรับปรุงแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคล กบข. จะดำเนินการบันทึกหลักฐานคำคัดค้านดังกล่าวไว้เป็นหลักฐานด้วย
กบข. อาจปฏิเสธคำขอการใช้สิทธิได้ตามกรณีที่มีกฎหมายกำหนดหรือในกรณีที่ข้อมูลส่วนบุคคลถูกทำให้ไม่ปรากฏชื่อหรือสิ่งบอกลักษณะอันสามารถระบุตัวเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลได้
กบข. ได้กำหนดให้เจ้าหน้าที่เฉพาะผู้ที่มีหน้าที่เกี่ยวข้องในการจัดเก็บรวบรวม ใช้ และเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของกิจกรรมการประมวลผลที่จะสามารถเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลได้ โดย กบข. จะดำเนินการให้เจ้าหน้าที่ปฏิบัติตามประกาศนี้อย่างเคร่งครัด
กบข. อาจพิจารณาแก้ไขเพิ่มเติมประกาศนี้ได้ตามที่เห็นสมควรและจะแจ้งให้เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลทราบผ่านช่องทางการติดต่อกับ กบข. ได้แก่ เว็บไซต์ (www.gpf.or.th) หรือช่องทางสื่อสารอื่น อย่างไรก็ตาม กบข. ขอแนะนำให้เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลตรวจสอบเพื่อรับทราบประกาศฉบับใหม่อย่างสม่ำเสมอ โดยเฉพาะก่อนที่เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลจะเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลแก่ กบข.
ในการเข้าใช้งานระบบงานต่าง ๆ หรือบริการภายใต้กิจกรรมการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลถือเป็นการรับทราบตามข้อตกลงในประกาศนี้หรือประกาศฉบับใหม่ที่ กบข. ได้แก้ไขเพิ่มเติมในอนาคต ถ้าหากเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลไม่เห็นด้วยกับข้อตกลงในประกาศนี้หรือประกาศฉบับใหม่ เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลควรงดการเข้าใช้งานระบบงานต่าง ๆ หรือบริการภายใต้กิจกรรมการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของ กบข. ถ้าหากเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลยังคงใช้งานหรือใช้บริการต่อไปภายหลังจากที่ประกาศนี้มีการแก้ไขเพิ่มเติมและประกาศในช่องทางข้างต้นแล้ว จะถือว่าเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลได้รับทราบการเปลี่ยนแปลงดังกล่าวแล้ว
เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลสามารถติดต่อกับ กบข. ในฐานะเป็นผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลหรือเจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลได้ตามข้อมูลดังต่อไปนี้