หน้าหลัก

ตำแหน่งที่เปิดรับ
กรอกใบสมัคร
วิเคราะห์ผลการจัดซื้อจัดจ้าง
ความก้าวหน้าการจัดซื้อจัดจ้าง
ประกาศจำหน่ายทรัพย์สิน
MCS Web
แบบฟอร์ม
งาน กบข.
กิจกรรมต่าง ๆ
ภาพเกี่ยวกับ กบข.

ประกาศเกี่ยวกับความเป็นส่วนตัว (Privacy Notice)
สำหรับบุคคลที่เกี่ยวกับกิจการสมาชิก

กองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ (กบข.) ตระหนักและให้ความสำคัญกับการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของ “บุคคลที่เกี่ยวกับกิจการสมาชิก” โดย กบข. มีความรับผิดชอบในการรักษาความปลอดภัยแก่ข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลที่อยู่ภายใต้ความดูแลของ กบข. และมุ่งมั่นที่จะจัดการข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวด้วยวิธีการที่มั่นคงปลอดภัย ประกาศนี้จึงจัดทำขึ้นเพื่อให้เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลทราบวัตถุประสงค์ในการเก็บรวบรวม ใช้ และเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล ตลอดจนระยะเวลาการเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคล รวมทั้งสิทธิของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลในฐานะเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลภายใต้พระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 ทั้งนี้ กบข. ในฐานะผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลจะดำเนินการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลตามวัตถุประสงค์ที่กำหนดไว้ในประกาศนี้

  1. นิยาม
  2. “ข้อมูลส่วนบุคคล” หมายความว่า ข้อมูลเกี่ยวกับบุคคลซึ่งทำให้สามารถระบุตัวบุคคลนั้นได้ ไม่ว่าทางตรงหรือทางอ้อม แต่ไม่รวมทั้งข้อมูลของผู้ถึงแก่กรรมโดยเฉพาะ

    “ข้อมูลส่วนบุคคลอ่อนไหว” หมายความว่า ข้อมูลส่วนบุคคลตามที่ถูกบัญญัติไว้ในมาตรา 26 แห่งพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 ได้แก่ ข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับเชื้อชาติ เผ่าพันธุ์ ความคิดเห็นทางการเมือง ความเชื่อในลัทธิ ศาสนาหรือปรัชญา พฤติกรรมทางเพศ ประวัติอาชญากรรม ข้อมูลสุขภาพ ความพิการ ข้อมูลสหภาพแรงงาน ข้อมูลพันธุกรรม ข้อมูลชีวภาพ หรือข้อมูลอื่นใดซึ่งกระทบต่อเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลในทำนองเดียวกันตามที่คณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลประกาศกำหนด

    “ผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล” หมายความว่า บุคคลหรือนิติบุคคลซึ่งมีอำนาจหน้าที่ตัดสินใจเกี่ยวกับ การเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล

    “ผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล” หมายความว่า บุคคลหรือนิติบุคคลซึ่งดำเนินการเกี่ยวกับการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลตามคำสั่งหรือในนามของ กบข.

    “สมาชิก” หมายความว่า สมาชิกของ กบข. และให้หมายความรวมถึงสมาชิกซึ่งสมาชิกภาพสิ้นสุดลง แต่ยังไม่ขอรับเงินคืนหรือขอทยอยรับเงินคืนด้วย

    “เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล” หมายความว่า บุคคลซึ่งเป็นเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลที่เกี่ยวกับกิจการสมาชิก เช่น สมาชิก ทายาทของสมาชิก บุคคลในครอบครัวของสมาชิก ผู้แทนสมาชิก ผู้อนุบาล ผู้พิทักษ์ หรือผู้จัดการมรดก

    “การประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล” หมายความว่า การดำเนินการหรือชุดการดำเนินการในการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลด้วยระบบอัตโนมัติหรือไม่ก็ได้ เช่น การเก็บรวบรวม การบันทึก การจัดระเบียบ การจัดโครงสร้าง การจัดเก็บ การดัดแปลง การปรับเปลี่ยน การกู้คืน การใช้ การเปิดเผยด้วยการส่ง การแพร่กระจาย หรือทำให้มีอยู่ การจัดวางให้ถูกตำแหน่ง การรวม การจำกัด การลบ และการทำลาย รวมถึงการอื่นใดที่ถูกควบคุมโดยกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล

  3. วัตถุประสงค์และฐานกฎหมายในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล
    • 2.1 วัตถุประสงค์และฐานกฎหมายในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลที่เป็นสมาชิก
    • วัตถุประสงค์ ฐานกฎหมาย
      (1) เพื่อปฏิบัติหน้าที่ตามพระราชบัญญัติกองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ พ.ศ. 2539 ได้แก่ การเป็นหลักประกันการจ่ายบำเหน็จบำนาญและให้ประโยชน์ตอบแทนการรับราชการแก่ข้าราชการเมื่อออกจากราชการ การส่งเสริมการออมทรัพย์ของสมาชิก รวมทั้งเพื่อจัดสวัสดิการและสิทธิประโยชน์อื่นให้แก่สมาชิก ฐานภารกิจของรัฐ (Public Task)
      (2) เพื่อการตรวจสอบคุณสมบัติและสิทธิในการรับเงินจาก กบข. เมื่อสมาชิกพ้นสมาชิกภาพและขอรับเงินจาก กบข. ฐานภารกิจของรัฐ (Public Task)
      (3) เพื่อใช้เป็นเอกสารหลักฐานทางกฎหมายหรือหลักฐานอ้างอิงการจ่ายเงินให้แก่สมาชิก รวมทั้งเพื่อใช้ในกรณีการร้องขอ ร้องเรียน ร้องทุกข์ กล่าวหา ฟ้องร้อง ดำเนินคดี บังคับคดี หรือเพื่อใช้ตามกระบวนการทางกฎหมาย ตลอดจนการก่อตั้ง ปฏิบัติตาม หรือใช้หรือยกขึ้นต่อสู้สิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย (1) ฐานประโยชน์อันชอบธรรม (Legitimate Interest)
      (2) ฐานการปฏิบัติตามกฎหมาย (Legal Obligation)
      (4) เพื่อปฏิบัติให้เป็นไปตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องหรือใช้บังคับกับ กบข. เช่น การปฏิบัติตามคำสั่งศาลหรือเจ้าพนักงานที่มีหน้าที่และอำนาจตามกฎหมาย หรือการให้ข้อมูลกับหน่วยงานราชการที่มีอำนาจและหน้าที่ตามกฎหมาย ฐานการปฏิบัติตามกฎหมาย (Legal Obligation)
      (5) เพื่อการติดต่อประสานงานและแจ้งข้อมูลสิทธิในการรับเงินจาก กบข. ฐานภารกิจของรัฐ (Public Task)
      (6) เพื่อการติดต่อ สื่อสาร เผยแพร่ และประชาสัมพันธ์ความรู้ด้านการลงทุน การออม สวัสดิการ สิทธิประโยชน์ การให้บริการที่ปรึกษา การส่งเสริมการออมทรัพย์ และการจัดสวัสดิการ รวมทั้งสิทธิประโยชน์อื่นสำหรับสมาชิก ฐานภารกิจของรัฐ (Public Task)
      (7) เพื่อแจ้งสิทธิประโยชน์ในการนับเวลาราชการและสิทธิในการนำเงินที่มีสิทธิได้รับจากการพ้นสภาพให้ กบข. นำไปหาผลประโยชน์ต่อไป ฐานภารกิจของรัฐ (Public Task)
      (8) เพื่อตอบข้อสอบถามและให้คำแนะนำบริการที่เกี่ยวกับกิจการของ กบข. ฐานภารกิจของรัฐ (Public Task)
      (9) เพื่อแจ้งข้อมูลเกี่ยวกับสมาชิกหรือเชิญเข้าร่วมกิจกรรมเกี่ยวกับการให้ความรู้ด้านการออม การลงทุนการบริหารเงิน รวมทั้งเพื่อเข้าร่วมกิจกรรมหรือบริการอื่นผ่านช่องทางการสื่อสารต่าง ๆ ที่ กบข. กำหนดไว้ เช่น โครงการ GPF Point หรือการจัดสวัสดิการและสิทธิประโยชน์ ฐานภารกิจของรัฐ (Public Task)
      (10) เพื่อดำเนินการใดที่เกี่ยวกับการเข้าร่วมโครงการสวัสดิการและสิทธิประโยชน์อื่นของสมาชิก รวมทั้งการให้บริการต่าง ๆ เช่น การลงทะเบียนเข้าร่วมกิจกรรม การส่งคำขอใช้บริการให้แก่พันธมิตรทางธุรกิจตามที่สมาชิกร้องขอ การอำนวยความสะดวกในการใช้บริการ (1) ฐานภารกิจของรัฐ (Public Task)
      (2) ฐานการปฏิบัติตามสัญญา (Contract)
      (11) เพื่อประโยชน์ในการศึกษาวิจัย การสำรวจ การวิเคราะห์ การประเมิน การจัดทำสถิติที่เกี่ยวกับภารกิจของ กบข. รวมทั้งการพัฒนาบริการ การนำเสนอบริการ การสื่อสารประชาสัมพันธ์ และการจัดสวัสดิการที่เหมาะสมสำหรับสมาชิก (1) ฐานภารกิจของรัฐ (Public Task)
      (2) ฐานเอกสารประวัติศาสตร์ จดหมายเหตุ และการศึกษาวิจัย หรือสถิติ (Research)
      (3) ฐานประโยชน์อันชอบธรรม (Legitimate Interest)
      (4) ฐานความยินยอม (Consent) เฉพาะกรณีที่ต้องได้รับความยินยอมในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล เช่น ข้อมูลส่วนบุคคลอ่อนไหว
      (12) เพื่อบริหารจัดการคำขอ ข้อร้องเรียน ข้อสอบถามที่เกี่ยวกับการดำเนินงานของ กบข. หรือการใช้บริการศูนย์บริการข้อมูลสมาชิก ฐานภารกิจของรัฐ (Public Task)
      (13) เพื่อการใช้งานระบบสารสนเทศหรือการใช้บริการที่จำเป็นต้องมีการพิสูจน์และยืนยันตัวตน เช่น การลงทะเบียนสมัครใช้ระบบ My GPF Application (1) ฐานการปฏิบัติตามกฎหมาย (Legal Obligation)
      (2) ฐานประโยชน์อันชอบธรรม (Legitimate Interest)
      (14) เพื่อจัดทำสื่อเผยแพร่ประชาสัมพันธ์กิจกรรมของ กบข. หรือเพื่อใช้ในการอ้างอิง ฐานประโยชน์อันชอบธรรม (Legitimate Interest)
      (15) เพื่อกิจการภายในของ กบข. เช่น
      • (ก) เพื่อการบริหารจัดการภายในองค์กร เช่น การวางแผน การรายงาน การกำกับตรวจสอบ การดำเนินการที่เกี่ยวกับการเบิกจ่ายเงินของฝ่ายบัญชีและการเงิน โดยจะจำกัดการใช้หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลเท่าที่จำเป็น
      • (ข) เพื่อใช้และเปิดเผยให้แก่ผู้ให้บริการเพื่อทำหน้าที่ต่าง ๆ หรือให้บริการบางอย่างในนามของ กบข. หรือผู้รับเหมาช่วงของผู้ให้บริการในบางกรณีตามที่ กบข. อนุญาต
      • (ค) เพื่อใช้สำหรับการจัดเก็บข้อมูล Log ตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง การเฝ้าระวังเหตุการณ์ภัยคุกคามทางด้านความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์ การให้บริการและการแก้ไขปัญหาการใช้งานระบบโครงสร้างพื้นฐานของ กบข.
      (1) ฐานภารกิจของรัฐ (Public Task)
      (2) ฐานการปฏิบัติตามกฎหมาย (Legal Obligation)
      (3) ฐานประโยชน์อันชอบธรรม (Legitimate Interest)
    • 2.2 วัตถุประสงค์และฐานกฎหมายในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลที่เป็นทายาทของสมาชิก บุคคลในครอบครัวของสมาชิก ผู้อนุบาล ผู้พิทักษ์ และผู้จัดการมรดก
    • วัตถุประสงค์ ฐานกฎหมาย
      (1) เพื่อการตรวจสอบคุณสมบัติและสิทธิในการรับเงินจาก กบข. ในกรณีที่สมาชิกถึงแก่ความตาย รวมทั้งเพื่อการติดต่อประสานงานและแจ้งข้อมูลสิทธิในการรับเงินจาก กบข. ฐานภารกิจของรัฐ (Public Task)
      (2) เพื่อดำเนินการใด ๆ ที่เกี่ยวกับการเข้าร่วมโครงการสวัสดิการและสิทธิประโยชน์อื่นของสมาชิก รวมทั้งการให้บริการในด้านอื่น ๆ ของ กบข. (1) ฐานการปฏิบัติตามกฎหมาย (Legal Obligation)
      (2) ฐานประโยชน์อันชอบธรรม (Legitimate Interest)
      (3) ฐานการปฏิบัติตามสัญญา (Contract)
      (3) เพื่อการใช้งานระบบสารสนเทศหรือการใช้บริการที่จำเป็นต้องมีการพิสูจน์และยืนยันตัวตน เช่น การลงทะเบียนสมัครใช้ระบบ My GPF Application (1) ฐานการปฏิบัติตามกฎหมาย (Legal Obligation)
      (2) ฐานประโยชน์อันชอบธรรม (Legitimate Interest)
      (4) เพื่อใช้สำหรับการจัดเก็บข้อมูล Log ตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง การเฝ้าระวังเหตุการณ์ภัยคุกคามทางด้านความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์ การให้บริการและการแก้ไขปัญหาการใช้งานระบบโครงสร้างพื้นฐานสารสนเทศ (1) ฐานการปฏิบัติตามกฎหมาย (Legal Obligation)
      (2) ฐานประโยชน์อันชอบธรรม (Legitimate Interest)
      (5) เพื่อใช้เป็นเอกสารหลักฐานทางกฎหมายหรือเป็นหลักฐานอ้างอิงการจ่ายเงินให้แก่สมาชิกหรือทายาทของสมาชิก บุคคลในครอบครัวของสมาชิก ผู้อนุบาล ผู้พิทักษ์ และผู้จัดการมรดก รวมทั้งใช้ในกรณีมีการร้องขอ ร้องเรียน ร้องทุกข์ กล่าวหา ฟ้องร้อง ดำเนินคดี บังคับคดี หรือเพื่อใช้ในกระบวนการทางกฎหมายที่เกี่ยวข้อง ตลอดจนการก่อตั้ง ปฏิบัติตาม หรือใช้ยกขึ้นต่อสู้สิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย (1) ฐานประโยชน์อันชอบธรรม (Legitimate Interest)
      (2) ฐานการปฏิบัติตามกฎหมาย (Legal Obligation)
      (6) เพื่อจัดทำสื่อเผยแพร่ประชาสัมพันธ์กิจกรรม กบข. หรือเพื่อใช้ในการอ้างอิง ฐานประโยชน์อันชอบธรรม (Legitimate Interest)
    • 2.3 วัตถุประสงค์และฐานกฎหมายในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของผู้แทนสมาชิก
    • วัตถุประสงค์ ฐานกฎหมาย
      (1) เพื่อการติดต่อประสานงานกับผู้แทนสมาชิกในการเข้ารับฟังและพิจารณาการรายงานผลการดำเนินงาน ฐานะการเงินและการรับจ่ายเงินของ กบข. และเพื่อเผยแพร่สรุปผลการประชุมใหญ่ให้สมาชิกรับทราบ ฐานภารกิจของรัฐ (Public Task)
      (2) เพื่อรับฟังความคิดเห็นและข้อเสนอแนะเกี่ยวกับการดำเนินงานของ กบข. มาใช้ประโยชน์ในการปรับปรุงการดำเนินงานของ กบข. ฐานภารกิจของรัฐ (Public Task)
      (3) เพื่อใช้เป็นข้อมูลสำหรับการแจ้งและชี้แจงข้อมูลที่เกี่ยวของกับ กบข. ที่ถูกต้องให้แก่สมาชิก หรือเพื่อเป็นสื่อกลาง ประชาสัมพันธ์ข่าวสาร ข้อมูลความรู้จาก กบข. ให้สมาชิกในสังกัดหรือในจังหวัดทราบ ฐานภารกิจของรัฐ (Public Task)
      (4) เพื่อเป็นสื่อกลางในการสำรวจความคิดเห็นของสมาชิกที่มีต่อ กบข. รวมทั้งการแจ้งรายชื่อผู้แทนสมาชิกให้สมาชิกได้รับทราบผ่านช่องทางการสื่อสารและประชาสัมพันธ์ที่เหมาะสม ฐานภารกิจของรัฐ (Public Task)
      (5) เพื่อการใช้งานระบบต่าง ๆ ของ กบข. หรือการใช้บริการที่จำเป็นต้องมีการพิสูจน์และยืนยันตัวตน ฐานประโยชน์อันชอบธรรม (Legitimate Interest)
      (6) เพื่อจัดทำสื่อเผยแพร่ประชาสัมพันธ์กิจกรรม กบข. หรือเพื่อใช้ในการอ้างอิง ฐานประโยชน์อันชอบธรรม (Legitimate Interest)
      (7) เพื่อใช้และเปิดเผยให้แก่ผู้ให้บริการเพื่อทำหน้าที่ต่าง ๆ หรือให้บริการบางอย่างในนามของ กบข. หรือผู้รับเหมาช่วงของผู้ให้บริการตามที่ กบข. อนุญาต (1) ฐานภารกิจของรัฐ (Public Task)
      (2) ฐานประโยชน์อันชอบธรรม (Legitimate Interest)
      (8) เพื่อใช้สำหรับการจัดเก็บข้อมูล Log ตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง การเฝ้าระวังเหตุการณ์ภัยคุกคามทางด้านความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์ การให้บริการและการแก้ไขปัญหาการใช้งานระบบโครงสร้างพื้นฐานของ กบข. (1) ฐานภารกิจของรัฐ (Public Task)
      (2) ฐานการปฏิบัติตามกฎหมาย (Legal Obligation)

      ข้อมูลส่วนบุคคลที่ กบข. เก็บรวบรวมเพื่อวัตถุประสงค์ดังกล่าวข้างต้นเป็นข้อมูลที่จำเป็นสำหรับการปฏิบัติงานของ กบข. หรือการปฏิบัติตามกฎหมายต่าง ๆ ที่ใช้บังคับกับ กบข. ทั้งนี้ หากเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลไม่ให้ข้อมูลส่วนบุคคลที่จำเป็นดังกล่าวแก่ กบข. การปฏิบัติหน้าที่ตามภารกิจของ กบข. อาจไม่บรรลุวัตถุประสงค์ตามความต้องการของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลได้ ในกรณีที่ กบข. ประสงค์จะประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลนอกเหนือจากวัตถุประสงค์ดังกล่าวข้างต้น กบข. จะแจ้งวัตถุประสงค์ให้เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลทราบ เว้นแต่ในกรณีที่มีกฎหมายบัญญัติไว้ ทั้งนี้ หาก กบข. จำเป็นต้องขอความยินยอมจากเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล กบข. จะขอความยินยอมจากเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลเป็นรายกรณี นอกจากนี้ในกรณีที่เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลได้ให้ข้อมูลของบุคคลอื่นแก่ กบข. เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลจะต้องรับผิดชอบในการแจ้งให้บุคคลเหล่านั้นทราบถึงประกาศนี้ หรือดำเนินการขอความยินยอม (หากจำเป็น)

  4. ข้อมูลส่วนบุคคลที่ กบข. เก็บรวบรวมและใช้
  5. กบข. เก็บรวบรวมและใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลเท่าที่จำเป็นภายใต้วัตถุประสงค์อันชอบด้วยกฎหมายตามรายการดังต่อไปนี้

    • 3.1 แหล่งข้อมูลและรายการข้อมูลส่วนบุคคลที่เก็บรวบรวม
      1. การเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลจากเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลโดยตรง
        • (ก) ข้อมูลที่ได้จากคำขอใช้บริการผ่านช่องทางต่าง ๆ เช่น ข้อมูลส่วนบุคคลทั่วไป ข้อมูลการลงทะเบียน ข้อมูลการยืนยันตัวตน ข้อมูลการติดต่อ ข้อมูลคำขอใช้บริการ ข้อมูลการเลือกแผนลงทุน ข้อมูลที่เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลให้ไว้ผ่านส่วนราชการเจ้าสังกัด ประวัติการใช้สิทธิพิเศษ จากช่องทางต่าง ๆ เช่น เว็บไซต์ กบข., My GPF Application, Line Official Account (Line ID : @gpfcommunity) หรือแบบคำร้องคำขอต่าง ๆ ของ กบข. ทั้งในรูปแบบเอกสารและข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์
        • (ข) ข้อมูลจากการติดต่อสื่อสารกับเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล เช่น ข้อมูลส่วนบุคคลทั่วไป บันทึกการสนทนา หรือข้อมูลการยืนยันตัวตนจากช่องทางต่าง ๆ เช่น ศูนย์บริการข้อมูลสมาชิก โทร 1179 e-Mail : member@gpf.or.th และการสื่อสารผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ของ กบข. ทุกช่องทาง
        • (ค) ข้อมูลจากการเข้าร่วมกิจกรรมกับ กบข. เช่น ข้อมูลการลงทะเบียนอบรม สัมมนา ประชุม ข้อมูลการสำรวจความคิดเห็น การเข้าร่วมการประชุมใหญ่ผู้แทนสมาชิก และการเข้าร่วมกิจกรรมหรือโครงการต่าง ๆ ที่ กบข. จัดให้แก่สมาชิก รวมทั้งภาพถ่ายและ/หรือภาพเคลื่อนไหว ข้อมูลการบันทึกเสียงจากการเข้าร่วมกิจกรรม
        • (ง) ข้อมูลบุคคลภายนอกที่เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลได้เปิดเผยต่อ กบข. เป็นข้อมูลที่เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลได้แจ้งและได้รับความยินยอมจากบุคคลดังกล่าวให้เปิดเผยแก่ กบข. รวมทั้งยินยอมให้ กบข. ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของบุคคลนั้น เพื่อวัตถุประสงค์ตามที่ระบุในประกาศนี้ เช่น ข้อมูลส่วนบุคคลทั่วไปของบุคคลในครอบครัว
      2. การเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลจากแหล่งอื่น
        • (ก) กรมบัญชีกลางหรือส่วนราชการเจ้าสังกัด
          • 1) ข้อมูลส่วนบุคคลทั่วไป เช่น คำนำหน้าชื่อหรือชั้นยศ ชื่อ-นามสกุล เลขบัตรประจำตัวประชาชน เพศ วันเดือนปีเกิด
          • 2) ข้อมูลเกี่ยวกับการติดต่อ เช่น ที่อยู่ หมายเลขโทรศัพท์ ไปรษณีย์อิเล็กทรอนิกส์
          • 3) ข้อมูลการรับราชการและการเป็นสมาชิก เช่น วันเดือนปีรับราชการ วันเดือนปีเป็นสมาชิก วันเดือนปีนำส่งเงิน หน่วยงานเจ้าสังกัด ประเภทข้าราชการ อายุเกษียณ ประวัติการเข้ารับราชการ
          • 4) ข้อมูลเกี่ยวกับการนำส่งเงิน เช่น ประเภทเงินนำส่ง จำนวนเงิน (เงินสะสม เงินสบทบ เงินชดเชย เงินประเดิม เงินสะสมส่วนเพิ่ม) แผนการลงทุน การออมเพิ่ม (อัตราเงินสะสมส่วนเพิ่ม)
          • 5) รายละเอียดเกี่ยวกับ Transaction ในบัญชีสมาชิก เช่น วันที่ทำรายการ ประเภทรายการ รายละเอียดเกี่ยวกับการนำส่งเงินต่าง ๆ
        • (ข) ส่วนราชการ หน่วยงานของรัฐ รัฐวิสาหกิจ หรือหน่วยงานเอกชนที่เกี่ยวข้อง
          • 1) ข้อมูลส่วนบุคคลจากกรมการปกครอง
          • 2) ข้อมูลการจ่ายเงินให้แก่สมาชิกจากธนาคาร
          • 3) ข้อมูลเกี่ยวกับสถานะบุคคลล้มละลายหรือข้อมูลการอายัดทรัพย์สินจากกรมบังคับคดี
      3. ข้อมูลที่เก็บจากอุปกรณ์ดิจิทัล รวมทั้งข้อมูลใด ๆ เกี่ยวกับระบบคอมพิวเตอร์หรืออุปกรณ์เทคโนโลยีที่เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลใช้เพื่อเข้าสู่ระบบช่องทางการให้บริการ เช่น เว็บไซต์ แอปพลิเคชัน หรือสื่อสังคมออนไลน์ที่ กบข. ใช้เป็นช่องทางในการให้บริการและติดต่อกับเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล โดยจะมีการรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลและกิจกรรมออนไลน์ของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล เช่น ข้อมูลการใช้งานหรือเข้าสู่ระบบ
    • 3.2 การเก็บรวบรวมและใช้ข้อมูลส่วนบุคคลอ่อนไหว
    • ในกรณีที่จำเป็น กบข. จะทำการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลอ่อนไหวของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลโดยได้รับความยินยอมโดยชัดแจ้งจากเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล หรือมีข้อยกเว้นในการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลอ่อนไหวโดยไม่ได้รับความยินยอมโดยชัดแจ้งจากเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลตามมาตรา 26 แห่งพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 ซึ่ง กบข. จะใช้ความพยายามอย่างดีที่สุดในการจัดให้มีมาตรการรักษาความมั่นคงปลอดภัยที่เพียงพอ เพื่อปกป้องคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลอ่อนไหวของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล ทั้งนี้ กบข. จะประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลอ่อนไหวดังกล่าวเพื่อวัตถุประสงค์ตามที่กฎหมายกำหนดไว้และตามวัตถุประสงค์ที่ กบข. แจ้งไว้

      ในกรณีที่เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลไม่ประสงค์ให้ทำการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลอ่อนไหว แต่ข้อมูลส่วนบุคคลอ่อนไหวดังกล่าวปรากฏอยู่บนบัตรประจำตัวประชาชนหรือเอกสารอื่นใดที่เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลได้สมัครใจเปิดเผยไว้ต่อ กบข. หรือส่งมอบข้อมูลใดที่ปรากฏข้อมูลส่วนบุคคลอ่อนไหวให้แก่ กบข. ไม่ว่าจะเป็นการส่งมอบในลักษณะที่เป็นเอกสารหรือสื่ออื่นใด กบข. แนะนำให้เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลเป็นผู้ปกปิดข้อมูลส่วนบุคคลอ่อนไหวเหล่านี้ด้วยตัวเอง โดยวิธีการขีดฆ่าข้อมูลส่วนบุคคลอ่อนไหว อย่างไรก็ตาม หากเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลมิได้ปกปิดข้อมูลด้วยตัวเอง กบข. ถือว่าเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลได้อนุญาตโดยชัดแจ้งให้ กบข. ทำการปกปิดข้อมูลส่วนบุคคลอ่อนไหวให้แก่เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล และให้ถือว่าข้อมูลส่วนบุคคลอ่อนไหวที่เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลส่งมอบมาและ กบข. ได้จัดการปกปิดข้อมูลส่วนบุคคลอ่อนไหวให้แล้วนั้น เป็นเอกสารที่สมบูรณ์ใช้บังคับได้ตามกฎหมายทุกประการ และ กบข. สามารถนำไปทำการประมวลผลได้ภายใต้พระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 ทั้งนี้ หากเป็นกรณีที่ กบข. ไม่สามารถจัดการปกปิดข้อมูลส่วนบุคคลอ่อนไหวให้ได้เนื่องด้วยปัญหาเชิงเทคนิคหรือปัญหาอื่นใด กบข. จะทำการจัดเก็บข้อมูลส่วนบุคคลอ่อนไหวนั้นเพื่อเป็นส่วนหนึ่งของเอกสารยืนยันตัวตนของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลเท่านั้น

    • 3.3 ข้อมูลส่วนบุคคลของผู้เยาว์ คนเสมือนไร้ความสามารถ และคนไร้ความสามารถ
    • ในกรณีที่ กบข. ทราบว่า ข้อมูลส่วนบุคคลที่จำเป็นต้องได้รับความยินยอมในการเก็บรวบรวมเป็นของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลซึ่งเป็นผู้เยาว์ คนเสมือนไร้ความสามารถ หรือคนไร้ความสามารถ กบข. จะไม่ทำการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลนั้นจนกว่าจะได้รับความยินยอมจากผู้ใช้อำนาจปกครองที่มีอำนาจกระทำการแทนผู้เยาว์ หรือผู้พิทักษ์ หรือผู้อนุบาล ตามแต่กรณี ทั้งนี้ เป็นไปตามเงื่อนไขที่กฎหมายกำหนดดังต่อไปนี้

      1. .ในกรณีที่เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลเป็นผู้เยาว์ซึ่งยังไม่บรรลุนิติภาวะโดยการสมรสหรือไม่มีฐานะเสมือนดังบุคคลซึ่งบรรลุนิติภาวะแล้วตามมาตรา 27 แห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ การขอความยินยอมจากเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวให้ดำเนินการดังต่อไปนี้
        • (ก) ในกรณีที่การให้ความยินยอมของผู้เยาว์ไม่ใช่การใด ๆ ซึ่งผู้เยาว์อาจให้ความยินยอมโดยลำพังได้ตามที่บัญญัติไว้ในมาตรา 22 มาตรา 23 หรือมาตรา 24 แห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ ต้องได้รับความยินยอมจากผู้ใช้อำนาจปกครองที่มีอำนาจกระทำการแทนผู้เยาว์ด้วย
        • (ข) ในกรณีที่ผู้เยาว์มีอายุไม่เกินสิบปี ให้ขอความยินยอมจากผู้ใช้อำนาจปกครองที่มีอำนาจกระทำการแทนผู้เยาว์
      2. .ในกรณีที่เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลเป็นคนเสมือนไร้ความสามารถ.การขอความยินยอมจากเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าว.ให้ขอความยินยอมจากผู้พิทักษ์ที่มีอำนาจกระทำการแทนคนเสมือนไร้ความสามารถ
      3. .ในกรณีที่เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลเป็นคนไร้ความสามารถ.การขอความยินยอมจากเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าว.ให้ขอความยินยอมจากผู้อนุบาลที่มีอำนาจกระทำการแทนคนไร้ความสามารถ

    ในกรณีที่ กบข. ไม่ทราบมาก่อนว่าเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลเป็นผู้เยาว์ คนเสมือนไร้ความสามารถหรือคนไร้ความสามารถ และมาพบในภายหลังว่า กบข. ได้เก็บรวบรวมข้อมูลของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าว โดยยังมิได้รับความยินยอมจากผู้ใช้อำนาจปกครองที่มีอำนาจกระทำการแทนผู้เยาว์ หรือผู้พิทักษ์ หรือผู้อนุบาล ตามแต่กรณี กบข. จะดำเนินการลบทำลายข้อมูลส่วนบุคคลนั้นโดยเร็ว หาก กบข. ไม่มีเหตุอันชอบด้วยกฎหมายประการอื่นนอกเหนือจากความยินยอมในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าว

  6. การเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล
    • 4.1 กบข. เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลต่อหน่วยงานของรัฐ หรือนิติบุคคล หรือบุคคล โดยจะดำเนินการภายใต้วัตถุประสงค์ที่กำหนดหรือวัตถุประสงค์อื่นที่กฎหมายกำหนดให้กระทำได้เท่านั้น ดังต่อไปนี้
      1. หน่วยงานภายใน กบข. และบริษัทในเครือ และให้หมายความรวมถึงเลขาธิการ พนักงาน หรือลูกจ้างของ กบข. และบริษัทในเครือเท่าที่เกี่ยวข้องและตามความจำเป็น (Need-to-Know Basis) เพื่อการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล
      2. หน่วยงานของรัฐหรือหน่วยงานที่มีหน้าที่กำกับดูแลตามกฎหมาย เช่น สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน กรมบัญชีกลาง กรมสรรพากร กรมบังคับคดี
      3. หน่วยงานที่ร้องขอให้เปิดเผยข้อมูลโดยอาศัยอำนาจตามกฎหมาย เช่น การร้องขอข้อมูลเพื่อการฟ้องร้องหรือดำเนินคดีตามกฎหมาย หรือที่มีความเกี่ยวกับกระบวนการทางกฎหมาย
      4. พันธมิตร ผู้ให้บริการ ที่ปรึกษา หรือผู้ที่เกี่ยวกับการปฏิบัติให้เป็นไปตามวัตถุประสงค์ในข้อ 2 และผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลที่ กบข. มอบหมายให้ทำหน้าที่รับผิดชอบให้บริการหรือบริหารจัดการเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคล เพื่อให้ช่วยหรือสนับสนุนการดำเนินงานของ กบข. ในการปฏิบัติหน้าที่ที่เกี่ยวกับ กบข. หรือการให้บริการอื่นใดอันอาจเป็นประโยชน์ต่อเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล โดยการเข้าถึงหรือจัดการข้อมูลส่วนบุคคลตามที่ได้รับอนุญาตจาก กบข. เท่านั้น
    • 4.2 ในกรณีที่ กบข. เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลให้แก่บุคคลอื่น กบข. จะจัดให้มีมาตรการและดำเนินการตามมาตรการที่เหมาะสมเพื่อคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่ได้เปิดเผยและเพื่อปฏิบัติตามมาตรฐาน และหน้าที่ในการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลตามที่กฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลกำหนด
  7. สิทธิตามพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562
  8. เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลย่อมมีสิทธิต่าง ๆ ที่เกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคลของตนเองตามพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 ดังต่อไปนี้

    • 5.1 สิทธิในการเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคล (Right of Access)
    • เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลมีสิทธิในการเข้าถึง รับสำเนาข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล รวมทั้งขอให้ กบข. เปิดเผยที่มาของข้อมูลส่วนบุคคลของตนที่ กบข. เก็บรวบรวมอยู่ เว้นแต่ในกรณีที่ กบข. มีสิทธิปฏิเสธคำขอของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลตามกฎหมายหรือคำสั่งศาล หรือในกรณีที่คำขอของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลจะมีผลกระทบที่อาจก่อให้เกิดความเสียหายต่อสิทธิและเสรีภาพของบุคคลอื่น

    • 5.2 สิทธิในการขอแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลให้ถูกต้อง (Right to Rectification)
    • เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลมีสิทธิขอแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลของตนที่ไม่ถูกต้อง ไม่ครบถ้วนสมบูรณ์ ไม่เป็นปัจจุบัน หรือก่อให้เกิดความเข้าใจผิด เพื่อให้ข้อมูลส่วนบุคคลของตนมีความถูกต้อง ครบถ้วน สมบูรณ์ เป็นปัจจุบัน หรือไม่ก่อให้เกิดความเข้าใจผิด โดย กบข. จะยืนยันความถูกต้องตามข้อมูลส่วนบุคคลที่ได้รับจากเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล เพื่อให้แน่ใจว่าข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวนั้นถูกต้องก่อนทำการแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคล

    • 5.3 สิทธิในการลบข้อมูลส่วนบุคคล (Right to Erasure)
    • เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลมีสิทธิที่จะร้องขอให้ กบข. ลบข้อมูลส่วนบุคคลที่เกี่ยวกับตนเองในกรณีที่เป็นไปตามเกณฑ์ดังต่อไปนี้

      1. ข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวไม่มีความจำเป็นตามวัตถุประสงค์ของการเก็บข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวอีกต่อไป
      2. เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลได้เพิกถอนความยินยอมและไม่มีมูลเหตุทางกฎหมายอื่นใดในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าว
      3. ข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวถูกประมวลผลโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย
    • 5.4 สิทธิในการขอให้ระงับการใช้ข้อมูลส่วนบุคคล (Right to Restrict Processing)
    • เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลมีสิทธิขอให้ระงับการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลในกรณีดังต่อไปนี้

      1. เมื่ออยู่ในช่วงเวลาที่ กบข. ทำการตรวจสอบตามที่เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลร้องขอให้แก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลของตนให้ถูกต้อง สมบูรณ์ เป็นปัจจุบัน และไม่ก่อให้เกิดความเข้าใจผิด
      2. ข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลถูกเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยโดยมิชอบด้วยกฎหมาย
      3. เมื่อข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลหมดความจำเป็นในการเก็บรักษาไว้ตามวัตถุประสงค์ที่ กบข. ได้แจ้งไว้ในการเก็บรวบรวมข้อมูล แต่เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลประสงค์ให้ กบข. เก็บรักษาข้อมูลนั้นต่อไปเพื่อประกอบการใช้สิทธิตามกฎหมายของตน
      4. เมื่ออยู่ในช่วงเวลาที่ กบข. กำลังพิสูจน์ให้เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลเห็นถึงเหตุอันชอบด้วยกฎหมายในการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคล หรือตรวจสอบความจำเป็นในการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อประโยชน์สาธารณะ อันเนื่องมาจากการที่เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลได้ใช้สิทธิคัดค้านการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล
    • 5.5 สิทธิในการคัดค้านการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล (Right to Object)
    • เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลมีสิทธิขอคัดค้านการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของตนด้วยเหตุผลที่ชอบด้วยกฎหมายดังต่อไปนี้

      1. เพื่อดำเนินการตามภารกิจอันเป็นสาธารณประโยชน์หรือเพื่อการดำเนินการของหน่วยงานรัฐที่ได้รับสิทธิเป็นผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลโดยสมบูรณ์
      2. เพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายของผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล

      เมื่อมีการคัดค้านแล้ว กบข. จะต้องพิสูจน์ความชอบธรรมของเหตุผลอันเป็นฐานของการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าว และระงับการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลจนกว่าจะดำเนินการแล้วเสร็จ

    • 5.6 สิทธิที่จะเพิกถอนความยินยอม (Right to Withdraw Consent)
    • ในกรณีที่ กบข. อาศัยฐานความยินยอมในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลมีสิทธิในการเพิกถอนความยินยอมในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลที่เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลได้ให้ความยินยอมกับ กบข. ได้ตลอดระยะเวลาที่ข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลอยู่ในความครอบครองของ กบข. ทั้งนี้ การเพิกถอนความยินยอมไม่ส่งผลกระทบต่อการประมวลผลที่ให้ความยินยอมไปแล้ว

      อย่างไรก็ตาม ในกรณีที่เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลเพิกถอนความยินยอมเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลอาจได้รับผลกระทบไม่สามารถรับบริการที่การประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล จำเป็นต้องอาศัยฐานความยินยอม

    • 5.7 สิทธิในการโอนย้ายข้อมูลส่วนบุคคล (Right to Data Portability)
    • เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลมีสิทธิขอรับข้อมูลส่วนบุคคลที่เกี่ยวกับตนเองในรูปแบบที่สามารถอ่านหรือใช้งานโดยทั่วไปได้ด้วยเครื่องมือหรืออุปกรณ์ที่ทำงานได้โดยอัตโนมัติ และสามารถใช้หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลได้ด้วยวิธีการอัตโนมัติ รวมทั้งมีสิทธิดังต่อไปนี้

      1. .ขอให้ส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลของตนในรูปแบบดังกล่าวไปยังผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลอื่นเมื่อสามารถทำได้ด้วยวิธีการอัตโนมัติ
      2. .ขอรับข้อมูลส่วนบุคคลที่ส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลในรูปแบบดังกล่าวไปยังผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลอื่นโดยตรงเว้นแต่โดยสภาพทางเทคนิคไม่สามารถกระทำได้

      ข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวต้องเป็นข้อมูลส่วนบุคคลที่เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลได้ให้ความยินยอมในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล หรือเป็นข้อมูลส่วนบุคคลที่ได้รับยกเว้นไม่ต้องขอความยินยอมจากเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล หรือเป็นข้อมูลส่วนบุคคลอื่นที่คณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลประกาศกำหนดตามพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562

    • 5.8 สิทธิในการยื่นข้อร้องเรียน
    • หากเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลมีความกังวลหรือมีข้อสงสัยเกี่ยวกับการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของตนโดย กบข. โปรดติดต่อ กบข. ตามที่กำหนดไว้ในประกาศนี้ ในกรณีที่มีการฝ่าฝืนกฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลมีสิทธิยื่นข้อร้องเรียนต่อสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลได้

      กบข. จะใช้ความพยายามอย่างเต็มความสามารถเพื่ออำนวยความสะดวกและดำเนินการตามคำร้องขอของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลโดยไม่ชักช้า เว้นแต่จะปรากฏข้อเท็จจริงว่าการดำเนินการตามคำร้องขอนั้นก่อให้เกิดภาระแก่ กบข. เกินสมควร หรือเสี่ยงต่อการละเมิดการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของผู้อื่น หรือเป็นการขัดต่อกฎหมาย หรือกรณีที่เป็นการพ้นวิสัยในทางปฏิบัติตามคำร้องขอนั้น

  9. การส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลไปยังต่างประเทศ
  10. ในกรณีที่ กบข. ส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลไปต่างประเทศ กบข. จะดำเนินการเพื่อให้แน่ใจว่า กบข. ได้ส่งหรือโอนไปยังประเทศปลายทาง องค์กรระหว่างประเทศ หรือผู้รับข้อมูลในต่างประเทศที่มีมาตรฐานในการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่เพียงพอ ในบางกรณี กบข. อาจขอความยินยอมจากเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลสำหรับการถ่ายโอนข้อมูลส่วนบุคคลไปยังต่างประเทศ ทั้งนี้ ตามหลักเกณฑ์การให้ความคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่ส่งหรือโอนไปยังต่างประเทศที่คณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลประกาศกำหนด เว้นแต่กรณีดังต่อไปนี้

    1. เป็นการปฏิบัติตามกฎหมาย
    2. ได้รับความยินยอมจากเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลโดยได้แจ้งให้เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลทราบถึงมาตรฐานการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล ที่ไม่เพียงพอของประเทศปลายทางหรือองค์การระหว่างประเทศที่รับข้อมูลส่วนบุคคลแล้ว
    3. .เป็นการจำเป็นเพื่อการปฏิบัติตามสัญญาซึ่งเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลเป็นคู่สัญญาหรือเพื่อใช้ในการดำเนินการ ตามคำขอของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเข้าทำสัญญานั้น
    4. เป็นการกระทำตามสัญญาระหว่างผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลกับบุคคลหรือนิติบุคคลอื่นเพื่อประโยชน์ของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล
    5. .เพื่อป้องกันหรือระงับอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย หรือสุขภาพของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลหรือบุคคลอื่น เมื่อเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลไม่สามารถให้ความยินยอมในขณะนั้นได้
    6. เป็นการจำเป็นเพื่อการดำเนินภารกิจเพื่อประโยชน์สาธารณะที่สำคัญ
  11. ระยะเวลาในการเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคล
  12. กบข. จะลบหรือทำลายหรือทำให้ข้อมูลส่วนบุคคลเป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวบุคคลที่เป็นเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลได้ เมื่อข้อมูลส่วนบุคคลนั้นไม่เกี่ยวข้องหรือเกินความจำเป็นตามวัตถุประสงค์ในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลนั้น หรืออายุสมาชิกครบเก้าสิบปีบริบูรณ์ หรือถูกจัดเก็บเป็นเวลาสิบปีนับแต่วันที่ผู้มีสิทธิรับเงินได้รับเงินจาก กบข. โดยถูกต้องครบถ้วน แล้วแต่เงื่อนไขใดจะนานกว่า และอาจเก็บต่อไปตามระยะเวลาที่จำเป็นเพื่อการปฏิบัติตามกฎหมายหรือตามอายุความทางกฎหมาย หรือเก็บไว้เป็นระยะเวลาห้าปีนับแต่วันสิ้นสุดระยะเวลาบังคับคดี และจะต้องทำลายข้อมูลส่วนบุคคลให้แล้วเสร็จภายในระยะเวลาหนึ่งปีนับแต่วันพ้นกำหนดระยะเวลาการเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคล ทั้งนี้ กบข. อาจสงวนสิทธิ์ในการพิจารณาจัดเก็บข้อมูลส่วนบุคคลต่อไปเท่าที่จำเป็นเพื่อประโยชน์ในการใช้อ้างอิง

  13. การรักษาความมั่นคงปลอดภัยข้อมูลส่วนบุคคล
  14. กบข. จะดำเนินการเพื่อให้ข้อมูลส่วนบุคคลมีความถูกต้อง เป็นปัจจุบัน สมบูรณ์ ไม่ก่อให้เกิดความเข้าใจผิด และมีคุณภาพ รวมทั้งให้ความคุ้มครองและรักษาความมั่นคงปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคลตามนโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่ กบข. กำหนด เพื่อมิให้ข้อมูลส่วนบุคคลเกิดการรั่วไหลหรือการเข้าถึงโดยไม่ได้รับอนุญาตหรือถูกนำไปใช้โดยผู้ที่ไม่มีสิทธิหรือโดยมิชอบด้วยกฎหมาย

  15. การมีส่วนร่วมของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล
  16. กบข. อาจเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลก็ต่อเมื่อได้รับคำร้องขอจากเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล โดยส่งคำร้องขอการใช้สิทธิผ่านช่องทางการติดต่อกับ กบข. หรือไปรษณีย์อิเล็กทรอนิกส์ ได้แก่ saraban@gpf.or.th หรือ member@gpf.or.th

    ในกรณีที่เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลมีการคัดค้านการจัดเก็บ ความถูกต้อง หรือการกระทำใด เช่น การแจ้งปรับปรุงแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคล กบข. จะดำเนินการบันทึกหลักฐานคำคัดค้านดังกล่าวไว้เป็นหลักฐานด้วย

    กบข. อาจปฏิเสธคำขอการใช้สิทธิได้ตามกรณีที่มีกฎหมายกำหนดหรือในกรณีที่ข้อมูลส่วนบุคคลถูกทำให้ไม่ปรากฏชื่อหรือสิ่งบอกลักษณะอันสามารถระบุตัวเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลได้

  17. ความรับผิดชอบของบุคคลซึ่งเป็นผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล
  18. กบข. ได้กำหนดให้เจ้าหน้าที่เฉพาะผู้ที่มีหน้าที่เกี่ยวข้องในการจัดเก็บรวบรวม ใช้ และเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของกิจกรรมการประมวลผลที่จะสามารถเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคล ของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลได้ โดย กบข. จะดำเนินการให้เจ้าหน้าที่ปฏิบัติตามประกาศนี้อย่างเคร่งครัด

  19. การเปลี่ยนแปลงแก้ไขประกาศเกี่ยวกับความเป็นส่วนตัว
  20. กบข. อาจพิจารณาแก้ไขเพิ่มเติมประกาศนี้ได้ตามที่เห็นสมควรและจะแจ้งให้เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลทราบผ่านช่องทางการติดต่อกับ กบข. ได้แก่ เว็บไซต์ กบข. (www.gpf.or.th) หรือช่องทางอื่น เช่น My GPF Application, Line Official Account (Line ID : @gpfcommunity) อย่างไรก็ตาม กบข. ขอแนะนำให้เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลตรวจสอบเพื่อรับทราบประกาศฉบับใหม่อย่างสม่ำเสมอ โดยเฉพาะก่อนที่เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลจะเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลแก่ กบข.

    ในการเข้าใช้งานระบบงานต่าง ๆ หรือบริการภายใต้กิจกรรมการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลถือเป็นการรับทราบตามข้อตกลงในประกาศนี้หรือประกาศฉบับใหม่ที่ กบข. ได้แก้ไขเพิ่มเติมในอนาคต ถ้าหากเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลไม่เห็นด้วยกับข้อตกลงในประกาศนี้หรือประกาศฉบับใหม่ เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลควรงดการเข้าใช้งานระบบงานต่าง ๆ หรือบริการภายใต้กิจกรรมการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของ กบข. ถ้าหากเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลยังคงใช้งานหรือใช้บริการต่อไปภายหลังจากที่ประกาศนี้มีการแก้ไขเพิ่มเติมและประกาศในช่องทางข้างต้นแล้ว จะถือว่าเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลได้รับทราบการแก้ไขเพิ่มเติมประกาศดังกล่าวแล้ว

  21. การติดต่อสอบถาม
  22. เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลสามารถติดต่อกับ กบข. ในฐานะเป็นผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลหรือเจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลได้ตามข้อมูลดังต่อไปนี้

    1. ผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล
      กองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ (กบข.)
      เลขที่ 990 อาคารอับดุลราฮิม เพลส ถนนพระราม 4 แขวงสีลม เขตบางรัก กรุงเทพมหานคร 10500
      โทร. 0 2636 1000
      เว็บไซต์ : www.gpf.or.th
      หรือไปรษณีย์อิเล็กทรอนิกส์ : saraban@gpf.or.th
    2. เจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล
      กองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ (กบข.)
      เลขที่ 990 อาคารอับดุลราฮิม เพลส ถนนพระราม 4 แขวงสีลม เขตบางรัก กรุงเทพมหานคร 10500
      โทร. 0 2636 1000
      เว็บไซต์ : www.gpf.or.th
      หรือไปรษณีย์อิเล็กทรอนิกส์ : อีเมลถึงเจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล